เมื่อคนส่วนใหญ่นึกถึงจุดหมายปลายทาง หรือ หาสถานที่เที่ยวสวยๆในยุโรป ปกติแล้วเยอรมนี (Germany) จะไม่ใช่สถานที่ที่อยู่ในใจมากที่สุด เหมือนประเทศอย่างอิตาลี หรือ สวิตเซอร์แลนด์ที่มีชื่อเสียงในด้านความงามของทิวทัศน์มากกว่า
เราย้ายมาอยู่ที่นี่ในปี 2014 ก่อนจะย้ายมาอยู่เยอรมนีก็หาข้อมูลมาเยอะพอสมควร แต่ก็ไม่คิดว่าจะได้พบเมืองและสถานที่สวยงามมากมายกว่าที่คิดไว้ เยอรมนีไม่ได้มีชื่อเสียงแค่ในเรื่องเบียร์หรือจุดกำเนิดของรถยี่ห้อดังๆที่มีเร็วสูงระดับต้นๆของโลกเท่านั้น แต่ที่นี่ยังมีประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่น่าสนใจมากแล้ว มีเมือง สิ่งก่อสร้างและสถาปัตยกรรมที่ความสวยงามอีกด้วย
วันนี้เรารวบรวม 10 เมือง ที่ถ้าคุณมาถึงที่นี่แล้ว ห้ามพลาดเด็ดขาด
1️⃣ Berlin (เบอร์ลิน)
เบอร์ลิน ไม่ได้เป็นเพียงเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของเยอรมนีเท่านั้น แต่ยังเป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรมของประเทศอีกด้วย เบอร์ลินเป็นเมืองที่น่าตื่นตาตื่นใจที่สุดแห่งหนึ่งของยุโรป เป็นเมืองที่มีชีวิตชีวาและเป็นศูนย์กลางด้านแฟชั่น ศิลปะ และวัฒนธรรมของเยอรมนี จึงไม่น่าแปลกใจที่เบอร์ลินเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากที่สุดเมืองหนึ่งของประเทศ
สถานที่ท่องเที่ยวที่ห้ามพลาดเช่น อนุสรณ์สถานกำแพงเบอร์ลิน (Berlin Wall Memorial) เป็นสถานที่อีกแห่งหนึ่ง ที่สำคัญมากๆของชาวเบอร์ลิน เพราะเป็นอนุสรณ์ที่บันทึกและเก็บประวัติศาสตร์ ที่สำคัญไว้มากมาย ถือเป็นประวัติศาสตร์หน้าสำคัญของสงครามโลกครั้งที่สองเลยทีเดียว
ใครที่สนใจเกี่ยวกับร่องรอยการแบ่งแยกประเทศในอดีตของเยอรมนี ทำไมถึงต้องมีกำแพงเบอร์ลิน รับรองว่าที่นี่ ไม่ทำให้ผิดหลังแน่นอน
ถ้าคุณมาเที่ยวเบอร์ลินแล้ว ประตูบรันเดินบวร์ก (Brandenburg Gate) ก็น่าสนใจมากทีเดียว เป็นประตูเก่าแก่ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นและสร้างได้อย่างสวยงาม ที่เป็นสัญลักษณ์อีกแห่งหนึ่งของเมืองเบอร์ลิน
2️⃣ Dresden (เดรสเดน)
ลงมาทางเยอรมนีตะวันออกกันบ้าง เดรสเดนเป็นเมืองที่ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเอลเบอ (die Elbe) ที่ถูกทำลายเกือบทั้งหมดด้วยระเบิดในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง แต่ได้รับการสร้างขึ้นใหม่อย่างงดงาม เพื่อสะท้อนถึงความสวยงามแบบดั้งเดิม ในฐานะเมืองหลวงของแซกโซนี (Sachsen – ซัคเซน) เดรสเดนเคยเป็นที่ตั้งของกษัตริย์และผู้มีสิทธิเลือกตั้งของรัฐบาลเยอรมันตะวันออกมาก่อน
ปัจจุบันเดรสเดนเป็นอีกเมืองหนึ่งที่มีสถาปัตยกรรม โบสถ์ และสิ่งก่อสร้างที่สวยงามมากมายเป็นเมืองสีเขียวที่เต็มไปด้วยสวนสาธารณะและนักท่องเที่ยวมากมายที่ต้องการชมความงดงามของเมืองนี่
ถ้าคุณมาเที่ยวที่นี่แล้ว สิ่งที่ห้ามพลาดโดยเด็ดขาด คือ the Dresden Zwinger ตั้งอยู่ในกลางใจเมืองเมืองเดรสเดน เป็นโบสถ์เก่าแก่ที่สร้างมาหลายร้อยปี มีประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ เพราะนอกจากจะมีเอกลักษณ์โดดเด่นแล้ว ยังมีโครงสร้างที่ประณีตและงดงามมาก
มาเที่ยวเดรสเดน การเดินเที่ยวชมบริเวณเมืองเก่า ชม Frauenkirche (โบสถ์เม่พระ) ตั้งอยู่กลางจตุรัส ใจกลางเมืองเก่า โบสถ์นี้ได้รับการบูรณะใหม่ ถึงแม้ว่าจะไม่ใหญ่นัก แต่ก็สวยงามมากทั้งด้านนอกและด้านใน ถือเป็นสถานที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเที่ยวเมืองนี่
นอกจากนี้ตลาดคริสมาร์สเมืองเดรสเดน ยังมีชื่อเสียงมาก ใครที่มาเที่ยวในช่วงหน้าหนาวหรือช่วงเทศกาลคริสต์มาส ถือว่าเป็นสิ่งที่ห้ามพลาดเลยค่ะ
เดรสเดนเป็นเมืองที่เราเองเคยใช้ชีวิตอยู่เกือบ 5 ปี เป็นเมืองที่คลาคล่ำไปด้วยนักท่องเที่ยวมากมาย มีร้านขายของที่ระลึกมากมาย หลังเลิกงานหรือช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ ในช่วงหน้าร้อนที่อากาศกำลังดี ผู้คนส่วนใหญ่จะออกไปเดินริม หรือปิกนิกกันฝั่งแม่น้ำเอลเบอ
3️⃣ Lübeck (ลือเบค)
Lübeck เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ทางเหนือของเยอรมนี สถาปัตยกรรมและปราสาทสร้างแบบโกธิค อาคารเป็นสไตล์เรเนสซองส์ที่หรูหรา และบ้านเรือนหลังคาจั่วที่เรียงรายกันเป็นแถว ย่านเมืองเก่ามีเอกลักษณ์เด่นและสวยงาม ถนนทางเดินที่สร้างจากหินและตรอกแคบๆ ทำให้การเดินเล่นไปรอบๆ เมืองเก่าที่ได้รับการขึ้นบัญชีของยูเนสโก ทำให้รู้สึกเหมือนได้เดินเข้าไปในโลกแห่งเทพนิยาย
4️⃣ Hamburg (ฮัมบวร์ก)
ฮัมบวร์กเป็นเมืองการค้าขายที่มีท่าเรือเสรี และเป็นเมืองที่ใหญ่อันดับสองของเยอรมนี ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศห่างจากเบอร์ลินเพียงไม่กี่ชั่วโมง ปัจจุบันท่าเรือฮัมบวร์กไม่ได้เป็นเพียงเมืองท่าที่ใหญ่ที่สุดในเยอรมนีเท่านั้น ยังเป็นท่าเรื่อที่ใหญ่เป็นอันดับสามของยุโรปอีกด้วย
นอกจากนี้ยังถูกเรียกว่าเป็น “ประตูสู่โลกกว้าง หรือ ภาษาเยอรมันเรียกว่า Tor zur Welt” และที่นี่มีสะพานมากกว่าอัมสเตอร์ดัมและเวนิสรวมกัน
5️⃣ Bremen (เบรเมน)
ที่นี่มีชื่อเสียงว่าเป็นหนึ่งในเมืองที่มีอัธยาศัยดีที่สุดของเยอรมนี เบรเมินตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเยอรมนี เป็นเมืองที่มีอายุมากกว่า 1,200 ปีและเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ ย่านเมืองเก่าเป็นเหมือนฉากหลังในเทพนิยาย และเป็นหนึ่งใน 38 แหล่งมรดกโลกขององค์การยูเนสโกในเยอรมนี
โดยเฉพาะในช่วงก่อนคริสต์มาส เมืองนี้ก็ยิ่งมีมนต์ขลังมากยิ่งขึ้น
6️⃣ Heidelberg (ไฮเดลแบร์ก)
ไฮเดลเบิร์กเป็นเมืองที่อยู่ในรัฐ Baden-Württemberg (บาเดน-เวือร์ทเทมแบร์ก) ที่สร้างขึ้นบนตลิ่งสูงชันของแม่น้ำเนคคาร์ และเป็นหนึ่งในเมืองที่สวยที่สุดในภูมิภาคแถบแบล็คฟอเรสต์ (Black Forest หรือ ในภาษาเยอรมันเรียกว่า Schwarzwald) เป็นเมืองที่ไม่ได้รับความเสียหายจากสงครามโลกครั้งที่สองมากนัก
สถานที่ ที่ห้ามพลาดเมื่อมาเที่ยวเมืองนี้ คือ โบสถ์ขนาดใหญ่ใจกลางเมือง ปราสาทไฮเดลเบิร์ก (Schloss Heidelberg) หรือ สะพานโอลด์ไฮเดลเบิร์กอันงดงาม (alte Brücke) ที่สร้างหินทรายที่เอามาจากหุบเขาเนคคาร์
7️⃣ Köln (โคโลญจ์ – Cologne)
โคโลญจน์เป็นหนึ่งในเมืองที่เก่าแก่ที่สุดของเยอรมนี ซึ่งก่อตั้งโดยชาวโรมัน สถาปัตยกรรมที่สวยงามสะท้อนให้เห็นถึงประวัติศาสตร์อันยาวนาน ถ้ามาเที่ยวเมือง อย่าพลาดเดินเล่นผ่านหอคอยโรมันเก่าแก่ โบสถ์สไตล์โกธิก และผ่านสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ที่ตัดกัน การเยี่ยมชมอาสนวิหารโคโลญซึ่งใช้เวลาสร้างถึง 600 ปี
นอกจากนี้การเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ช็อคโกแลตเพียงอย่างเดียวก็คุ้มค่าแก่การเดินทางที่นี่
8️⃣ Nürnberg (เนิร์นแบร์ก – Nuremberg)
นักท่องเที่ยวสามารถเห็นประวัติศาสตร์ที่สำคัญของเนิร์นแบร์กชัดเจน เมื่อเดินผ่านย่านเมืองเก่า ประวัติศาสตร์ยุคกลางที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดี เมื่อเดินเที่ยวชมสถานที่สำคัญอันเป็นเอกลักษณ์ เช่น ปราสาทเนิร์นแบร์กอันน่าเกรงขาม รู้สึกเหมือนก้าวเข้าสู่อดีตอันยาวนานที่กลับมามีชีวิตอีกครั้ง
หรือจะเป็นปราสาทตั้งอยู่บนยอดที่มีทัศนียภาพอันงดงามของเมือง และเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์ Kaiserburg ให้เจาะลึกประวัติศาสตร์ราชวงศ์ของเมืองได้
การผสมผสานระหว่างประวัติศาสตร์เข้ากับความมีชีวิตชีวาของวัฒนธรรม ทำให้ที่นี่เป็นจุดหมายปลายทางของนักเดินทางหลายๆคน
9️⃣ Bamberg (แบมเบิร์ก)
ไม่น่าเชื่อว่า เมืองทั้งเมืองจะสามารถเป็นมรดกโลกของ UNESCO ได้ แต่พอเห็นเมืองแบมเบิร์กแล้ว บอกได้เลยว่างดงามแค่ไหน เสน่ห์ของเมืองนี้อยู่ในเมืองเก่าที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างสวยงาม ซึ่งมีอายุย้อนกลับไปตั้งแต่ศตวรรษที่ 11
นอกจากนี้ยังมีเอกลักษณ์ คือ มีแม่น้ำ Regnitz ที่ไหลผ่านใจกลางเมือง สิ่งก่อสร้างและสถาปัตยกรรมต่างๆ เป็นการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างสไตล์โรมาเนสก์ โกธิก และบาโรก โดยมีถนนที่ปูด้วยหินแคบๆ บ้านโครงไม้ และอาคารยุคกลางที่น่าประทับใจ เหมาะสำหรับการเดินเล่น
จุดเด่นอีกอย่างหนึ่งของเมืองบัมแบร์ก คือ ศาลากลางเก่า (Alte Rathaus) ในบัมแบร์กเป็นอาคารที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งซึ่งแสดงถึงลักษณะเฉพาะของใจกลางเมืองประวัติศาสตร์ นอกจากนี้ยังมีโครงสร้างที่ตั้งตระหง่านอย่างสวยงาม
🔟 Rothenburg ob der Tauber
ลักษณะเด่นที่สุดของโรเธนเบิร์ก อ็อบ แดร์ เทาเบอร์ คือ เมืองเก่ายุคกลางที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดีเยี่ยม ล้อมรอบไปด้วยกำแพงที่มีป้อมปราการ เราสามารถเดินไปรอบๆเมืองเพื่อชื่นชมทิวทัศน์และถ่ายรูปได้
ศูนย์กลางของเมือง คือ จัตุรัส Marktplatz ซึ่งเป็นจัตุรัสที่ดูมีชีวิตชีวา มีศาลาว่าการ (Rathaus) สไตล์เรอเนซองส์ และโบสถ์ St. Jakobให้เที่ยวชมได้ หรือจะขึ้นไปบนหอคอยเพื่อชมทิวทัศน์อันสวยงามของหลังคาบ้านเรือนและหุบเขาแม่น้ำเทาเบอร์และบริเวณโดยรอบก็สวยไปอีกแบบ
การเดินทาง คือ การสร้างความทรงจำและประสบการณ์ที่ดี ทำให้เราได้เรียนรู้และเข้าใจมุมมองการใช้ชีวิตของผู้คน ที่อยู่ต่างถิ่น ต่างวัฒนธรรมออกไป ในขณะเดียวกันก็ทำให้มุมมองของเราเองกว้างขึ้น
ไม่สำคัญว่าเที่ยวแบบไหน… งบประมาณเท่าไร… แค่เราออกไปใช้ชีวิต ในแบบที่เราต้องการก็พอ
