Ausbildung

Ausbildungssystem – ระบบสายอาชีพในเยอรมนี

Cshow

ระบบสายอาชีพในเยอรมนี เลือกแบบไหนดี แบบไหนที่ตลาดแรงงานต้องการ

คุณอยากทำงานและเรียนควบคู่กันไปด้วย อยากเรียนสายอาชีพในเยอรมนี แต่ไม่รู้จะเลือกทำ Ausbildung แบบไหนดี หรือ ระบบการเรียนสายอาชีพแบบไหนที่เหมาะกับคุณ แล้วแต่ละระบบมีข้อดีและข้อเสียต่างกันอย่างไร

แต่คุณไม่จำเป็นต้องใช้เวลานานในการหาข้อมูลอีกต่อไป เพราะบทความนี้ เรามีคำตอบและข้อมูลที่จะช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น ว่าระบบการเรียนสายอาชีพ แบบไหนที่คุณอยากทำ และเหมาะกับคุณ

Education

ไม่ว่าคุณจะเรียนสายอาชีพระบบไหน ภาษาเยอรมันเป็นสิ่งที่มีความจำเป็นและสำคัญมาก ถ้าใครมีคำถาม เรียนภาษาเยอรมัน ที่ไหนดี หรือ กำลังมองหาหนังสือเรียนภาษาด้วยตัวเอง บทความนี้ ช่วยคุณได้

Ausbildung คือ

👉 ระบบการศึกษาสายอาชีพของเยอรมนี ที่มีทั้งการเรียนในโรงเรียนฝึกอาชีพ (Berufsschule) ควบคู่ไปกับการทำงานจริง ๆในบริษัทที่รับคุณเข้าฝึกอบรม (Ausbildungsbetrieb)

เรียนสายอาชีพในเยอรมนี นั้น ไม่มีระบบไหนที่เป็นแบบที่มีแค่การทำงานอย่างเดียว หรือ การเรียนอย่างเดียวเท่านั้น แต่คุณจะต้องเรียนทั้งทฤษฎีและฝึกปฏิบัติงานในบริษัทที่ทำกิจการเกี่ยวกับสาขาที่คุณเรียนควบคู่กันไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระบบคู่ ซึ่งเป็นระบบที่มีความโดดเด่นทั้งเรียนและทำงานควบคู่กันไปด้วย และเป็นระบบที่ได้รับการยอมรับในเยอรมนีเป็นอย่างมากอีกด้วย

Ausbildung มีอะไรบ้าง

การเรียนสายอาชีพในเยอรมนี มี 2 แบบ

1️⃣ การเรียนสายอาชีพในระบบคู่ (duale Ausbildung)

2️⃣ การเรียนในโรงเรียนฝึกอาชีพ (schulische Ausbildung)

ความแตกต่าง

👉 การฝึกอบรมแบบในบริษัท หรือ ระบบคู่

คือ คุณเรียนภาคททฤษฎี ที่โรงเรียนฝึกอาชีพ แล้วนำความรู้ที่ได้ ไปใช้ในทางปฏิบัติจริง ซึ่งเป็นระบบการฝึกงานที่ได้มาตรฐานและเป็นที่ยอมรับในเยอรมนีเป็นอย่างมาก

จุดเน้นหลัก คือ คุณทำงาน 3-4 วันต่อสัปดาห์ที่บริษัทที่รับคุณเข้าฝึกงาน และเรียนทฤษฎีในโรงเรียนฝึกอาชีพ (Berufsschule) 1-2 วันต่อสัปดาห์ ขึ้นอยู่กับสาขางานหรือสัญญาจ้างงาน

ระยะเวลาที่ใช้ในฝึกงาน ส่วนใหญ่คือ 3 ปี โดยประมาณ แต่หากคุณทำผลงานได้ดี สามารถลดระยะเวลาการฝึกลงได้ถึง 6 เดือน

ข้อดี ทำไมการเรียนสายอาชีพระบบนี้ จึงเป็นที่นิยมมาก

  • เน้นการทำงานจริงๆ ในระหว่างการฝึกอบรม คุณจะได้รับประสบการณ์การทำงานที่บริษัท อย่างเต็มที่ และส่วนใหญ่จะเน้นความรู้ในทางปฏิบัติเป็นหลัก จึงทำให้ได้ประสบการณ์ในการทำงานจริง ๆ ตลอดระยะเวลาที่ฝึกงาน
  • ได้รับเงินประจำเดือน เนื่องจากคุณทำงานในบริษัท ระหว่างการฝึกงานคุณจะได้รับเงินประจำเดือนเป็นค่าตอบแทนด้วย ซึ่ง เงินเดือน แต่ละ อาชีพ ในเยอรมัน ระหว่างทำการฝึกอบรมก็แตกต่างกันออกไป บางสาขาที่ไม่ได้รับเงินเดือนในระหว่างฝึกงาน เช่น ในบางวิชาชีพทางการแพทย์ ผู้เข้ารับการฝึกอบรมจะไม่ได้รับเงินเดือน หรืออาจจะต้องจ่ายเพิ่มด้วยซ้ำ หรือ ฝึกงานเพื่อเป็นพี่เลี้ยงเด็กตามโรงเรียนอนุบาลต่าง ๆ
  • บริษัทดูแลเรื่องประกันสังคม ตามกฎหมายการว่าจ้างงานของเยอรมนี บริษัทจะต้องจ่ายค่าประกันสังคมให้กับผู้ที่ฝึกงานกับบริษัทนั้นๆ
Pro Tips: 
ถ้าคู่ครองของคุณใช้ประกันสังคมที่เป็นของเอกชน เช่น Allianz หรือ Axa เป็นต้น แล้วคุณไม่สามารถใช้ประกันรวมกันได้ ซึ่งต่างกับประกันสังคมของรัฐบาล การเรียนสายอาชีพระบบคู่ จะสามารถประหยัดรายจ่ายต่อเดือนของคุณได้เยอะมาก

ข้อเสีย คือ การหาที่ฝึกงานนั้นค่อนข้างยาก และมีคู่แข่งเยอะพอสมควร คุณต้องวางแผน และเตรียมตัวล่วงหน้าดีพอสมควร เพื่อจะให้ได้ตำแหน่งงานที่ต้องการ

👉 ระบบการเรียนในโรงเรียนฝึกอาชีพ

ในขณะที่ผู้ฝึกงานในระบบคู่ ใช้เวลาในการฝึกอบรมที่บริษัทเป็นส่วนใหญ่ ผู้ที่ฝึกงานแบบในโรงเรียนฝึกอาชีพนั้น การเรียนการสอนจัดขึ้นที่โรงเรียนฝึกอาชีพเป็นส่วนใหญ่ อาจจะมีการจัดฝึกงานในบริษัทบ้าง ประมาณ 6 เดือน ถึง 1 ปี แล้วแต่สาขาและโรงเรียนฝึกอาชีพนั้น ๆ ซึ่งถือว่าค่อนข้างน้อยมากเมื่อเทียบกับระบบคู่ จึงมักถูกมองเป็นจุดด้อย ว่าประสบการณ์ในทางปฏิบัติของผู้เข้ารับการฝึกอบรมนั้นสั้นเกินไป โดยส่วนใหญ่เน้นทฤษฎีเป็นหลักเสียมากกว่า

อาชีพส่วนใหญ่ที่เรามักเจอ คือ อาชีพทางด้าน สาธารณสุข สังคม หรือ สื่อประชาสัมพันธ์ต่าง ๆ

ระยะเวลาของการฝึกงานจะนานแค่ไหนนั้น ขึ้นอยู่กับสาขาอาชีพที่คุณเลือกเรียน

✅ ข้อดีของการเรียนระบบนี้ คือ ขั้นตอนการสมัครไม่ได้ยุ่งยาก และไม่ได้มีคู่แข่งเยอะเหมือนการสมัครฝึกงานในระบบคู่

❌ ข้อเสีย

  • เน้นทฤษฎีเป็นหลัก ทำให้ประสบการณ์ในทางปฏิบัตินั้นน้อยเกินไป
  • ไม่มีเงินเดือนระหว่างที่เรียน
  • สามารถเรียนได้ทั้งโรงเรียนฝึกอาชีพที่เป็นของรัฐ และ เอกชน ถ้าเป็นโรงเรียนเอกชน ผู้เรียนจะต้องจ่ายค่าเรียนเอง แล้วยังมีค่าจ่ายต่าง ๆ เช่น ค่าหนังสือ สื่อ และอุปกรณ์ทางการเรียนเพิ่มขึ้นมาอีก

สรุปความแตกต่างระหว่างการเรียนสายอาชีพ ทั้ง 2 ระบบ

Ausbildung Im Vergleich
บทบาทของ หอการค้าและอุตสาหกรรม (Industrie- und Handelskammer หรือ IHK) ในระหว่างเรียนสายอาชีพ อันนี้เกี่ยวข้องโดยตรงกับการฝึกอบรมในบริษัท หรือ เรียนสายอาชีพในระบบคู่
  • ไม่ใช่ทุกบริษัท ที่สามารถจัดฝึกอบรมให้กับทุกอาชีพได้ หน้าที่ของหอการค้าและอุตสาหกรรม (IHK) คือการตรวจสอบว่าบริษัทนั้น ๆ เหมาะสม และมีคุณสมบัติ สามารถเป็นบริษัทที่ฝึกอบรมได้หรือไม่
  • ตรวจสอบ ควบคุมให้การปฏิบัติเป็นตามระเบียบของการฝึกอบรม และเป็นไปตามพระราชบัญญัติการฝึกอาชีพของอาชีพนั้น ๆ เพื่อให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรม สามารถนำความรู้ที่ได้ จากทฤษฎีไปสู่การปฏิบัติและสามารถพัฒนาตนเองต่อไปได้
  • การเรียนสายอาชีพระบบคู่นั้น เป็นไปตามสัญญาที่ทำขึ้นระหว่าง บริษัท (Ausbildungsbetrieb) กับผู้ฝึกงาน (Auszubildender หรือ Azubi) และจดทะเบียนโดยหอการค้าอุตสาหกรรมและการพาณิชย์ (IHK) นอกจากนี้ IHK ยังเป็นผู้ทำการจัดสอบและดำเนินการสอบอีกด้วย

ส่วนตัวแนะนำระบบที่เป็น การฝึกอบรมในบริษัท หรือ การเรียนสายอาชีพในระบบคู่ เพราะจากประสบการณ์ของเราเองที่เพิ่งเรียนจบมาใน สาขา Kaufleute im E-Commerce คือ เราได้เรียนรู้ และได้ทำงานเหมือนพนักงานทั่วไปจริงๆ ตั้งแต่สัปดาห์แรกของการเข้าฝึกอบรม ถือเป็นประสบการณ์ที่ดีมาก

ไม่ว่าคุณจะเลือกเรียนสายอาชีพแบบไหน สิ่งที่สำคัญคือ เลือกให้เหมาะกับตัวคุณ ขอให้เป็นงานที่คุณรัก และเป็นงานที่ตลาดแรงงานต้องการ ทั้งในปัจจุบัน จนไปถึงอนาคตก็พอ เช่น งานด้านสาธารณสุข พยาบาล ครูพี่เลี้ยงเด็ก หรือ เรียนเกี่ยวกับการค้าขาย หรือ ทำธุรกิจออนไลน์ เป็นต้น

สู้ๆนะคะ เราเชื่อมั่นว่าคุณทำได้แน่นอนค่ะ 🥰

Cshow