ระบบสายอาชีพในเยอรมนี เลือกแบบไหนดี แบบไหนที่ตลาดแรงงานต้องการ…
คุณอยากทำงานและเรียนควบคู่กันไปด้วย อยากเรียนสายอาชีพในเยอรมนี แต่ไม่รู้จะเลือกทำ Ausbildung แบบไหนดี หรือ ระบบการเรียนสายอาชีพแบบไหนที่เหมาะกับคุณ แล้วแต่ละระบบมีข้อดีและข้อเสียต่างกันอย่างไร
แต่คุณไม่จำเป็นต้องใช้เวลานานในการหาข้อมูลอีกต่อไป เพราะบทความนี้ เรามีคำตอบและข้อมูลที่จะช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น ว่าระบบการเรียนสายอาชีพ แบบไหนที่คุณอยากทำ และเหมาะกับคุณ
Education is the most powerful weapon which you can use to change the world
Nelson Mandela
การศึกษาคืออาวุธที่สำคัญที่สุด ที่คุณสามารถใช้เพื่อเปลี่ยนแปลงโลกได้
ไม่ว่าคุณจะเรียนสายอาชีพระบบไหน ภาษาเยอรมันเป็นสิ่งที่มีความจำเป็นและสำคัญมาก ถ้าใครมีคำถาม เรียนภาษาเยอรมัน ที่ไหนดี หรือ กำลังมองหาหนังสือเรียนภาษาด้วยตัวเอง บทความนี้ ช่วยคุณได้
Ausbildung คือ
👉 ระบบการศึกษาสายอาชีพของเยอรมนี ที่มีทั้งการเรียนในโรงเรียนฝึกอาชีพ (Berufsschule) ควบคู่ไปกับการทำงานจริง ๆในบริษัทที่รับคุณเข้าฝึกอบรม (Ausbildungsbetrieb)
เรียนสายอาชีพในเยอรมนี นั้น ไม่มีระบบไหนที่เป็นแบบที่มีแค่การทำงานอย่างเดียว หรือ การเรียนอย่างเดียวเท่านั้น แต่คุณจะต้องเรียนทั้งทฤษฎีและฝึกปฏิบัติงานในบริษัทที่ทำกิจการเกี่ยวกับสาขาที่คุณเรียนควบคู่กันไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระบบคู่ ซึ่งเป็นระบบที่มีความโดดเด่นทั้งเรียนและทำงานควบคู่กันไปด้วย และเป็นระบบที่ได้รับการยอมรับในเยอรมนีเป็นอย่างมากอีกด้วย
Ausbildung มีอะไรบ้าง
การเรียนสายอาชีพในเยอรมนี มี 2 แบบ
1️⃣ การเรียนสายอาชีพในระบบคู่ (duale Ausbildung)
2️⃣ การเรียนในโรงเรียนฝึกอาชีพ (schulische Ausbildung)
ความแตกต่าง
👉 การฝึกอบรมแบบในบริษัท หรือ ระบบคู่
คือ คุณเรียนภาคททฤษฎี ที่โรงเรียนฝึกอาชีพ แล้วนำความรู้ที่ได้ ไปใช้ในทางปฏิบัติจริง ซึ่งเป็นระบบการฝึกงานที่ได้มาตรฐานและเป็นที่ยอมรับในเยอรมนีเป็นอย่างมาก
จุดเน้นหลัก คือ คุณทำงาน 3-4 วันต่อสัปดาห์ที่บริษัทที่รับคุณเข้าฝึกงาน และเรียนทฤษฎีในโรงเรียนฝึกอาชีพ (Berufsschule) 1-2 วันต่อสัปดาห์ ขึ้นอยู่กับสาขางานหรือสัญญาจ้างงาน
ระยะเวลาที่ใช้ในฝึกงาน ส่วนใหญ่คือ 3 ปี โดยประมาณ แต่หากคุณทำผลงานได้ดี สามารถลดระยะเวลาการฝึกลงได้ถึง 6 เดือน
✅ ข้อดี ทำไมการเรียนสายอาชีพระบบนี้ จึงเป็นที่นิยมมาก
- เน้นการทำงานจริงๆ ในระหว่างการฝึกอบรม คุณจะได้รับประสบการณ์การทำงานที่บริษัท อย่างเต็มที่ และส่วนใหญ่จะเน้นความรู้ในทางปฏิบัติเป็นหลัก จึงทำให้ได้ประสบการณ์ในการทำงานจริง ๆ ตลอดระยะเวลาที่ฝึกงาน
- ได้รับเงินประจำเดือน เนื่องจากคุณทำงานในบริษัท ระหว่างการฝึกงานคุณจะได้รับเงินประจำเดือนเป็นค่าตอบแทนด้วย ซึ่ง เงินเดือน แต่ละ อาชีพ ในเยอรมัน ระหว่างทำการฝึกอบรมก็แตกต่างกันออกไป บางสาขาที่ไม่ได้รับเงินเดือนในระหว่างฝึกงาน เช่น ในบางวิชาชีพทางการแพทย์ ผู้เข้ารับการฝึกอบรมจะไม่ได้รับเงินเดือน หรืออาจจะต้องจ่ายเพิ่มด้วยซ้ำ หรือ ฝึกงานเพื่อเป็นพี่เลี้ยงเด็กตามโรงเรียนอนุบาลต่าง ๆ
- บริษัทดูแลเรื่องประกันสังคม ตามกฎหมายการว่าจ้างงานของเยอรมนี บริษัทจะต้องจ่ายค่าประกันสังคมให้กับผู้ที่ฝึกงานกับบริษัทนั้นๆ
Tipp: ถ้าคู่ครองของคุณใช้ประกันสังคมที่เป็นของเอกชน เช่น Allianz หรือ Axa เป็นต้น แล้วคุณไม่สามารถใช้ประกันรวมกันได้ ซึ่งต่างกับประกันสังคมของรัฐบาล การเรียนสายอาชีพระบบคู่ จะสามารถประหยัดรายจ่ายต่อเดือนของคุณได้เยอะมาก
❌ ข้อเสีย คือ การหาที่ฝึกงานนั้นค่อนข้างยาก และมีคู่แข่งเยอะพอสมควร คุณต้องวางแผน และเตรียมตัวล่วงหน้าดีพอสมควร เพื่อจะให้ได้ตำแหน่งงานที่ต้องการ
👉 ระบบการเรียนในโรงเรียนฝึกอาชีพ
ในขณะที่ผู้ฝึกงานในระบบคู่ ใช้เวลาในการฝึกอบรมที่บริษัทเป็นส่วนใหญ่ ผู้ที่ฝึกงานแบบในโรงเรียนฝึกอาชีพนั้น การเรียนการสอนจัดขึ้นที่โรงเรียนฝึกอาชีพเป็นส่วนใหญ่ อาจจะมีการจัดฝึกงานในบริษัทบ้าง ประมาณ 6 เดือน ถึง 1 ปี แล้วแต่สาขาและโรงเรียนฝึกอาชีพนั้น ๆ ซึ่งถือว่าค่อนข้างน้อยมากเมื่อเทียบกับระบบคู่ จึงมักถูกมองเป็นจุดด้อย ว่าประสบการณ์ในทางปฏิบัติของผู้เข้ารับการฝึกอบรมนั้นสั้นเกินไป โดยส่วนใหญ่เน้นทฤษฎีเป็นหลักเสียมากกว่า
อาชีพส่วนใหญ่ที่เรามักเจอ คือ อาชีพทางด้าน สาธารณสุข สังคม หรือ สื่อประชาสัมพันธ์ต่าง ๆ
ระยะเวลาของการฝึกงานจะนานแค่ไหนนั้น ขึ้นอยู่กับสาขาอาชีพที่คุณเลือกเรียน
✅ ข้อดีของการเรียนระบบนี้ คือ ขั้นตอนการสมัครไม่ได้ยุ่งยาก และไม่ได้มีคู่แข่งเยอะเหมือนการสมัครฝึกงานในระบบคู่
❌ ข้อเสีย
- เน้นทฤษฎีเป็นหลัก ทำให้ประสบการณ์ในทางปฏิบัตินั้นน้อยเกินไป
- ไม่มีเงินเดือนระหว่างที่เรียน
- สามารถเรียนได้ทั้งโรงเรียนฝึกอาชีพที่เป็นของรัฐ และ เอกชน ถ้าเป็นโรงเรียนเอกชน ผู้เรียนจะต้องจ่ายค่าเรียนเอง แล้วยังมีค่าจ่ายต่าง ๆ เช่น ค่าหนังสือ สื่อ และอุปกรณ์ทางการเรียนเพิ่มขึ้นมาอีก
สรุปความแตกต่างระหว่างการเรียนสายอาชีพ ทั้ง 2 ระบบ

บทบาทของ หอการค้าและอุตสาหกรรม (Industrie- und Handelskammer หรือ IHK) ในระหว่างเรียนสายอาชีพ อันนี้เกี่ยวข้องโดยตรงกับการฝึกอบรมในบริษัท หรือ เรียนสายอาชีพในระบบคู่
- ไม่ใช่ทุกบริษัท ที่สามารถจัดฝึกอบรมให้กับทุกอาชีพได้ หน้าที่ของหอการค้าและอุตสาหกรรม (IHK) คือการตรวจสอบว่าบริษัทนั้น ๆ เหมาะสม และมีคุณสมบัติ สามารถเป็นบริษัทที่ฝึกอบรมได้หรือไม่
- ตรวจสอบ ควบคุมให้การปฏิบัติเป็นตามระเบียบของการฝึกอบรม และเป็นไปตามพระราชบัญญัติการฝึกอาชีพของอาชีพนั้น ๆ เพื่อให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรม สามารถนำความรู้ที่ได้ จากทฤษฎีไปสู่การปฏิบัติและสามารถพัฒนาตนเองต่อไปได้
- การเรียนสายอาชีพระบบคู่นั้น เป็นไปตามสัญญาที่ทำขึ้นระหว่าง บริษัท (Ausbildungbetrieb) กับผู้ฝึกงาน (Auszubildender หรือ Azubi) และจดทะเบียนโดยหอการค้าอุตสาหกรรมและการพาณิชย์ (IHK) นอกจากนี้ IHK ยังเป็นผู้ทำการจัดสอบและดำเนินการสอบอีกด้วย
ส่วนตัวแนะนำระบบที่เป็น การฝึกอบรมในบริษัท หรือ การเรียนสายอาชีพในระบบคู่ เพราะจากประสบการณ์ของเราเองที่เพิ่งเรียนจบมาใน สาขา Kaufleute im E-Commerce คือเราได้เรียนรู้ และได้ทำงานเหมือนพนักงานทั่วไปจริงๆ ตั้งแต่สัปดาห์แรกของการเข้าฝึกอบรม ถือเป็นประสบการณ์ที่ดีมาก
ไม่ว่าคุณจะเลือกเรียนสายอาชีพแบบไหน สิ่งที่สำคัญคือ เลือกให้เหมาะกับตัวคุณ ขอให้เป็นงานที่คุณรัก และเป็นงานที่ตลาดแรงงานต้องการ ทั้งในปัจจุบัน จนไปถึงอนาคตก็พอ เช่น งานด้านสาธารณสุข พยาบาล ครูพี่เลี้ยงเด็ก หรือ เรียนเกี่ยวกับการค้าขาย หรือ ทำธุรกิจออนไลน์ เป็นต้น
สู้ๆนะคะ เราเชื่อมั่นว่าคุณทำได้แน่นอนค่ะ 🥰
[…] 👉 ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ จาก บทความนี้ เลย […]
[…] Ausbildung นะคะ 👉 ข้อมูลเพิ่มเติม จาก บทความนี้ เลย […]
[…] สามารถทำได้ทั้งแบบเรียนในบริษัท (betriebliche Ausbildung หรือ duale Ausbildung) และเรียนในโรงเรียนฝึกอาชีพ (schulische […]
[…] ข้อมูลเพิ่มเติม: ระบบสายอาชีพในเยอรมนี […]
[…] ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ จาก บทความนี้ เลย […]
[…] 👉 ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ จาก บทความนี้ เลยค่ะ […]
[…] schulische Ausbildung นะคะ ข้อมูลเพิ่มเติม จาก บทความนี้ เลย […]
[…] ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ระบบเรียนสายอาชีพในเยอรมนี […]